เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง II เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Well begun is half done II

เพราะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ สิ่งสำคัญคือการอยู่กับปัจจุบัน
เมื่อเริ่มใหม่ได้ในทุกวัน สิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงคือ Awareness หรือความตระหนักรู้

เพราะถ้าไม่ตระหนักรู้และไม่อยากเปลี่ยนแปลง จะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไรถามใจดู
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง II
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Well begun is half done II เพราะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ สิ่งสำคัญคือการอยู่กับปัจจุบัน เมื่อเริ่มใหม่ได้ในทุกวัน สิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงคือ Awareness หรือความตระหนักรู้ เพราะถ้าไม่ตระหนักรู้และไม่อยากเปลี่ยนแปลง จะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไรถามใจดู
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง  กรณีศึกษาเมื่อเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Well begun is half done

ถ้าวันนี้เราถามตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะย้อนเวลากลับไปทำอะไร?

เป็นคำถามที่ใครหลายคนแอบตอบในใจว่า อยากกลับไป “เริ่มต้นใหม่” กับอะไรซักอย่าง
โดยเฉพาะในชีวิตการทำงาน สำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้างานหรือผู้จัดการใหม่ทั้งหลาย
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
กรณีศึกษาเมื่อเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Well begun is half done ถ้าวันนี้เราถามตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะย้อนเวลากลับไปทำอะไร? เป็นคำถามที่ใครหลายคนแอบตอบในใจว่า อยากกลับไป “เริ่มต้นใหม่” กับอะไรซักอย่าง โดยเฉพาะในชีวิตการทำงาน สำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้างานหรือผู้จัดการใหม่ทั้งหลาย
เริ่มต้นสัปดาห์ยังไง ให้งานวิ่งฉิว วันจันทร์แบบนี้ ต้องเริ่มต้นการทำงานยังไง ถึงจะมีชัยไปกว่าครึ่ง

บรรดาผู้นำระดับโลกต่างก็มีธรรมเนียมการเริ่มต้นทำงานในวันจันทร์ 
ที่จะช่วยให้ออกตัวทำงานต้นวีคได้แรงกว่าเดิม มาดูกันว่าแต่ละคนมีเคล็ดลับยังไงบ้าง
เริ่มต้นสัปดาห์ยังไง ให้งานวิ่งฉิว
วันจันทร์แบบนี้ ต้องเริ่มต้นการทำงานยังไง ถึงจะมีชัยไปกว่าครึ่ง บรรดาผู้นำระดับโลกต่างก็มีธรรมเนียมการเริ่มต้นทำงานในวันจันทร์ ที่จะช่วยให้ออกตัวทำงานต้นวีคได้แรงกว่าเดิม มาดูกันว่าแต่ละคนมีเคล็ดลับยังไงบ้าง
ร่วมกันขจัดโรคซึมเศร้าในที่ทำงาน เวลาที่เราได้เห็นข่าวคนปลิดชิวิตตนเองจากปัญหาโรคซึมเศร้า “เรา” ในฐานะคนธรรมดา
ก็มักจะคิดว่า ทำไมและเพราะอะไรถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ ทำไมไม่คิดถึงวันข้างหน้า ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้มีความทุกข์ด้วยกันทุกคน ทำไมไม่สู้ ทำแบบนี้คนข้างหลังจะอยู่อย่างไร
คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจแล้ว”เรา”ก็ลืมเลือนมันไป
ร่วมกันขจัดโรคซึมเศร้าในที่ทำงาน
เวลาที่เราได้เห็นข่าวคนปลิดชิวิตตนเองจากปัญหาโรคซึมเศร้า “เรา” ในฐานะคนธรรมดา ก็มักจะคิดว่า ทำไมและเพราะอะไรถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ ทำไมไม่คิดถึงวันข้างหน้า ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้มีความทุกข์ด้วยกันทุกคน ทำไมไม่สู้ ทำแบบนี้คนข้างหลังจะอยู่อย่างไร คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจแล้ว”เรา”ก็ลืมเลือนมันไป
ทำงานวันเสาร์อย่างไรไม่ให้เศร้า  ทำงานวันเสาร์อย่างไรไม่ให้เศร้า เมื่อ Saturday is not a sad day

ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีงานวิจัยรองรับว่า การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งมีหลายๆประเทศเริ่มทดลองทำงาน 4 วัน เช่นในเยอรมันและนิวซีแลนด์ แต่ในเมื่อกฏหมายแรงงานของไทยกำหนดไว้ในเรื่องของเวลาการทำงานไว้ว่า ไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงยังมีหลายๆบริษัทในปัจจุบันที่ยังทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์
ทำงานวันเสาร์อย่างไรไม่ให้เศร้า
ทำงานวันเสาร์อย่างไรไม่ให้เศร้า เมื่อ Saturday is not a sad day ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีงานวิจัยรองรับว่า การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งมีหลายๆประเทศเริ่มทดลองทำงาน 4 วัน เช่นในเยอรมันและนิวซีแลนด์ แต่ในเมื่อกฏหมายแรงงานของไทยกำหนดไว้ในเรื่องของเวลาการทำงานไว้ว่า ไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงยังมีหลายๆบริษัทในปัจจุบันที่ยังทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์
ภาวะ “Boreout Syndrome” ภาวะ “Boreout Syndrome” กรณีศึกษา “ภาวะเบื่องาน” เมื่องานน้อยไป ใจจึงอ่อนแรง

แต่เชื่อหรือไม่ว่านอกจากงานหนักและภาวะตึงเครียดที่ทำให้คนหมดไฟและหมดใจ 
งานที่น้อยเกินไปและไม่ท้าทายก็สามารถทำให้เกิดภาวะถดถอยในการทำงานได้เช่นกัน

“Boreout Syndrome” เป็นภาวะของการเบื่อในงานที่ทำ รู้สึกว่างานที่ทำไม่มีคุณค่า 
ไม่ตอบสนองและส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ของตนเอง หรืออาจจะเรียกว่าขาดแรงบันดาลใจ
ในการทำงานก็ย่อมได้
ภาวะ “Boreout Syndrome”
ภาวะ “Boreout Syndrome” กรณีศึกษา “ภาวะเบื่องาน” เมื่องานน้อยไป ใจจึงอ่อนแรง แต่เชื่อหรือไม่ว่านอกจากงานหนักและภาวะตึงเครียดที่ทำให้คนหมดไฟและหมดใจ งานที่น้อยเกินไปและไม่ท้าทายก็สามารถทำให้เกิดภาวะถดถอยในการทำงานได้เช่นกัน “Boreout Syndrome” เป็นภาวะของการเบื่อในงานที่ทำ รู้สึกว่างานที่ทำไม่มีคุณค่า ไม่ตอบสนองและส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ของตนเอง หรืออาจจะเรียกว่าขาดแรงบันดาลใจ ในการทำงานก็ย่อมได้
บริษัทซอมบี้ "บริษัทซอมบี้" (Zombie firm) เป็นฉายาของบริษัทไม่สามารถทำกำไร แต่ก็ยังอยู่รอดในธุรกิจได้ แม้ว่าจะอยู่ในแบบครึ่งผีครึ่งคน เป็น Living dead ไปเรื่อยๆ ก็ตาม งานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ของ IMF นิยาม "บริษัทซอมบี้" ไว้ว่า เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการมากกว่า 10 ปี แต่กำไรของบริษัทไม่พอที่จะจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ได้ต่อเนื่องกัน 3 ปี
บริษัทซอมบี้
"บริษัทซอมบี้" (Zombie firm) เป็นฉายาของบริษัทไม่สามารถทำกำไร แต่ก็ยังอยู่รอดในธุรกิจได้ แม้ว่าจะอยู่ในแบบครึ่งผีครึ่งคน เป็น Living dead ไปเรื่อยๆ ก็ตาม งานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ของ IMF นิยาม "บริษัทซอมบี้" ไว้ว่า เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการมากกว่า 10 ปี แต่กำไรของบริษัทไม่พอที่จะจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ได้ต่อเนื่องกัน 3 ปี
หัวหน้าแบบ ลม และพระอาทิตย์  นิทานเด็กยังสอนผู้ใหญ่ได้ หากค่อยๆอ่านและคิดตามไป อย่างเช่น เรื่องลมกับพระอาทิตย์ ก็เป็นเรื่องที่สอนภาวะผู้นำได้ดี ไม่แพ้หลักการใดเลย หากท่านใดลืมเนื้อหา เพราะเลยวัยเด็กมาเนิ่นนานแล้ว ผมก็ขอช่วยทวนคร่าวๆ ดังนี้ คงไม่ว่ากันนะครับ
หัวหน้าแบบ ลม และพระอาทิตย์
นิทานเด็กยังสอนผู้ใหญ่ได้ หากค่อยๆอ่านและคิดตามไป อย่างเช่น เรื่องลมกับพระอาทิตย์ ก็เป็นเรื่องที่สอนภาวะผู้นำได้ดี ไม่แพ้หลักการใดเลย หากท่านใดลืมเนื้อหา เพราะเลยวัยเด็กมาเนิ่นนานแล้ว ผมก็ขอช่วยทวนคร่าวๆ ดังนี้ คงไม่ว่ากันนะครับ
คินสึงิ (Kintsugi) แนวคิดเปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นความงดงาม "คินสึงิ (Kintsugi)" คือ แนวคิดหนึ่งที่ช่วยเยียวยา จิตใจบอบช้ำที่เกิดจากความล้มเหลว ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ความผิดพลาดในอดีตของคน หากรู้จักวิธีประสานรอยร้าวของจิตใจ ช่วงเวลาอันเจ็บปวดของชีวิตนั้น ก็ผันเป็นหนทางพัฒนาศักยภาพที่ตัวเองมีได้ เพียงกาวที่ใช้นั้น ไม่ใช่สสารทางกายภาพแต่เป็นชุดความคิด
คินสึงิ (Kintsugi) แนวคิดเปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นความงดงาม
"คินสึงิ (Kintsugi)" คือ แนวคิดหนึ่งที่ช่วยเยียวยา จิตใจบอบช้ำที่เกิดจากความล้มเหลว ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ความผิดพลาดในอดีตของคน หากรู้จักวิธีประสานรอยร้าวของจิตใจ ช่วงเวลาอันเจ็บปวดของชีวิตนั้น ก็ผันเป็นหนทางพัฒนาศักยภาพที่ตัวเองมีได้ เพียงกาวที่ใช้นั้น ไม่ใช่สสารทางกายภาพแต่เป็นชุดความคิด
ทัศนคติการแก้ปัญหาแบบเพลงกบร้องเพราะท้องปวด วงจรการโทษกันแบบ "กบร้องเพราะท้องปวด" มีเพื่ออธิบายเหตุผล ที่มาที่ไปของความผิดพลาดที่ "ดูเหมือนสมเหตุสมผล" แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ไม่ต่างกับเพลงกบปวดท้อง ที่เริ่มอธิบายปัญหา และวนหาสาเหตุที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ท้ายสุดมันก็วนมาที่จุดเริ่มต้น แล้ววนเป็นลูปใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทัศนคติการแก้ปัญหาแบบเพลงกบร้องเพราะท้องปวด
วงจรการโทษกันแบบ "กบร้องเพราะท้องปวด" มีเพื่ออธิบายเหตุผล ที่มาที่ไปของความผิดพลาดที่ "ดูเหมือนสมเหตุสมผล" แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ไม่ต่างกับเพลงกบปวดท้อง ที่เริ่มอธิบายปัญหา และวนหาสาเหตุที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ท้ายสุดมันก็วนมาที่จุดเริ่มต้น แล้ววนเป็นลูปใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า